วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552

MISTINE Beauty Mind : เพชรา เชาวราษฎร์

อรุณสวัสดิ์ในวันอากาศสดใส วันนี้บล๊อคทำบุญวันเกิด ขอนำเสนอกระแสฮอตฮิตในช่วงเวลานี้ หลังจากบล๊อคทำบุญวันเกิดได้รับเมล์จากเพื่อนสนิทท่านหนึ่งส่งมาให้ ต้องบอกว่าวันนี้กระแสการกลับมาของ คุณเพชรา เชาวราษฎร์ อดีตนางเอกตลอดกาล ใน MISTINE Beauty Mind : เพชรา เชาวราษฎร์ มาให้ชมกัน

เพชรา เชาวราษฎร์

เธอหายไป 30 ปี นี่คือ ครั้งแรกกับการเปิดตัว ของอดีตนางเอกตลอดกาล เพชรา เชาวราษฎร์ บล๊อคทำบุญวันเกิด ขอร่วมให้กำลังใจเธอครับ







ประวัติ เพชรา เชาวราษฎร์

เพชรา เชาวราษฎร์ (เกิด 19 มกราคม พ.ศ. 2486) อายุ 66 ปี (ปัจจุบันปี 2552) ชื่อเล่น อี๊ด ชื่อจริงว่า เอก เชาวราษฎร์ นักแสดงภาพยนตร์เจ้าของฉายา นางเอกนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง มีผลงานแสดงประมาณ 300 เรื่อง ระหว่าง พ.ศ. 2505 ถึง 2521

วัยเด็ก

เพชราเกิดที่จังหวัดระยอง เป็นบุตรคนที่ 4 จากพี่น้องทั้งหมด 7 คน เมื่ออายุ 15 ปี ได้เข้ามาเรียนหนังสือที่กรุงเทพ พักอาศัยอยู่กับพี่สาวและพี่เขย และช่วยงานที่ร้านเสริมสวยของน้องสาวพี่เขย เธอได้รับการชักชวนให้เข้าประกวดธิดาเมษาฮาวายประจำปีพ.ศ. 2504 จัดโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ใช้ชื่อในการประกวดว่า ปัทมา เชาวราษฎร์ ได้ตำแหน่งชนะเลิศ

เธอได้รับการชักชวนจากศิริ ศิริจินดา และดอกดิน กัญญามาลย์ ให้แสดงภาพยนตร์เรื่อง บันทึกรักพิมพ์ฉวี เมื่อ พ.ศ. 2505 เป็นเรื่องแรก ขณะอายุ 19 ปี แสดงคู่กับ มิตร ชัยบัญชา โดยดอกดิน กัญญามาลย์ เป็นผู้ตั้งชื่อว่า เพชรา ให้

เพชรา เชาวราษฎร์ แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจากภาพยนตร์เรื่องที่สอง เรื่อง ดอกแก้ว ตามด้วย หนึ่งในทรวง อ้อมอกสวรรค์ และได้แสดงคู่กับมิตร ชัยบัญชา รับบทคู่รักในภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เป็นที่ชื่นชอบของแฟนภาพยนตร์ เรียกว่า คู่ขวัญ มิตร-เพชรา

หลังจากมิตร ชัยบัญชาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในการถ่ายภาพยนตร์เรื่อง อินทรีทอง เพชราก็ยังรับบทนางเอกภาพยนตร์ต่อเนื่องมาอีกหลายปี คู่กับ สมบัติ เมทะนี ไชยา สุริยัน ลือชัย นฤนาท และพระเอกใหม่ ครรชิต ขวัญประชา นาท ภูวนัย ยอดชาย เมฆสุวรรณ กรุง ศรีวิไล

*** บล๊อคทำบุญวันเกิด เกิดไม่ทันเหมือนกัน :)***

โลกแห่งความมืด
ประมาณ พ.ศ. 2515 เธอเริ่มมีปัญหาเรื่องสายตา เนื่องจากในการถ่ายภาพยนตร์ต้องใช้แสงไฟสว่างจ้า ใช้เวลารักษาอยู่หลายปี จนกระทั่งตาบอดสนิททั้งสองข้าง เมื่อ พ.ศ. 2521 ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่เธอแสดง คือเรื่อง ไอ้ขุนทอง ซึ่งเธออำนวยการสร้าง และแสดงเป็นแม่ของพระเอก รับบทโดยสรพงศ์ ชาตรี สาเหตุของการตาบอดของเพชรา มาจากการไม่ได้พักสายตา ไม่ว่าจะเป็นบทบาทที่ต้องร้องไห้บ่อย การขับรถไปทำงานเอง ประกอบกับสมัยนั้น ถ่ายหนังต้องใช้ไฟแรง หรือใช้รีเฟล็กซ์เยอะ ช่วงหลังๆที่ถ่ายหนังเรื่อง “ไทยใหญ่” เมื่อปี 2513 เริ่มแสบตา แต่เธอก็ยังขับรถไปถ่ายหนังต่างจังหวัดเอง และอดทนแสดงภาพยนตร์จนถึงเรื่องสุดท้ายคือ “ไอ้ขุนทอง” เข้าฉายในปี 2520

เมื่อดวงตาเริ่มมีปัญหา จึงไปหาหมอ แต่ว่าไม่ได้ไปตามนัดโดยสม่ำเสมอ เพราะต้องไปถ่ายหนัง บางวันก็อยู่ต่างจังหวัด พออาการเริ่มหนักขึ้น ถึงขั้นขับรถปีนเกาะกลางถนนหลายครั้ง ช่วงที่อาการหนักมากๆ ก็พยายามรักษาทุกวิถีทาง แพ้ยาจนตัวบวม จากน้ำหนัก 47-48 กิโลกรัม จนมาหนัก 60 กว่ากิโลกรัม ต้องซื้อเสื้อผ้าคนท้องมาใส่ ผมร่วงหมดศีรษะ ฝ้าขึ้นดำไปทั้งหน้าทั้งตัว เมื่อตัวบวมมากๆ ก็หายใจไม่ออก กลืนน้ำก็ไม่ได้ ต้องเข้าไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล การทำงานของไตหยุด พิษยาจึงคั่งค้างทำให้ตัวบวม ต้องรอให้พิษยาลดลง จากที่เคยสวมแว่นดำและนั่งแท็กซี่ไปไหนมาไหนได้เอง ตอนหลังก็มองไม่เห็น ออกไปไหนคนเดียวไม่ได้[1]

คืนวงการ
หลังจากหยุดงานแสดงเพื่อรักษาสุขภาพมาหลายปี เธอทำงานเป็นนักจัดรายการวิทยุคลื่นลูกทุ่ง เอฟเอ็ม ตั้งแต่ พ.ศ. 2544-2548

ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2552 เธอให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ครั้งแรกในรอบ 30 ปี ในรายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย โดยเข้าไปคุยในบ้านของเธอเอง พร้อมพูดเปิดใจและบอกสาเหตุที่เก็บตัวเงียบ ไม่ยอมออกรายการโทรทัศน์ แต่ยังคงไม่เปิดเผยหน้าตา[2] และเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2552 เพชราได้รับงานโฆษณามิสทีน โดยรายได้จากงานครั้งนี้เพชราจะบริจาคให้องค์กรการกุศลทั้งหมด ส่วนหนึ่งจะมอบให้กับมูลนิธิคนตาบอดแห่งประเทศไทย โฆษณาประชาสัมพันธ์ตัวแรกที่นำเสนอภาพของเพชราในอดีตได้แพร่ภาพเมื่อประมาณกลางเดือนกันยายน และตัวที่สองที่มีพรีเซนเตอร์ของมิสทีนคนก่อน ๆ มาพูดถึงจุดเด่นของโฆษณาตัวนี้ ได้ประกาศว่าโฆษณาตัวเต็มจะเผยแพร่ในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552 โดยผู้บรรยายโฆษณาทั้งสองตัวคือ นิรุตต์ ศิริจรรยา ถ่ายทำเมื่อวันที่ 16-17 กันยายน พ.ศ. 2552

*** ผมเชื่อว่าหลายๆ คนที่อายุต่ำกว่าเลข 40 คงอาจจะยังไม่เคยทราบถึงเรื่องราวของนางเอกตลอดกาล ที่ได้ฝากผลงานไว้มากมาย แม้วันนี้เธอจะอยู่ในโลกแห่งความมืด แต่เธอมีกำลังใจที่เข้มแข็ง มีความสว่างในใจ บล๊อคทำบุญวันเกิด อยากให้ผู้อ่านทุกท่านได้ เรียนรู้ เพราะว่าแม้เราจะเป็นอย่างไร หากมีกำลังใจที่เข้มแข็ง อุปสรรคใดๆ ก็ไม่สามารถขวางกั้นเราได้ครับ

*** อย่าลืมไปทำบุญวันเกิดกันนะครับ ............... :)

1 ความคิดเห็น:

สร้างเว็บ กล่าวว่า...

น่าอ่านมากครับ คนรุ่นใหม่อย่างผมได้ยินแต่ชื่อไม่รู้ประวัติมากเท่าไหร่

แสดงความคิดเห็น