วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
ทำบุญวันเกิด นำเสนอ ประวัติวันตรุษจีนจ้า!!!
เขียนโดย
Jittree
ที่
23:28
สวัสดีหลังตรุษจีน หายไปซะเนินน่านเลยครับกับการอับเดต บล๊อคทำบุญวันเกิด วันนี้เลยขอมาเพิ่มเติมพูดคุยกันซะหน่อย หลายๆ คนเริ่มต้นปีใหม่ ใครผ่านวันเกิดไปแล้ว ไปทำบุญวันเกิดกันมาบ้างรึเปล่า ยังไงก็อย่าลืมนำเนื้อหาสาระดีๆ ที่บล๊อคทำบุญวันเกิด นำเสนอไปประยุกต์ใช้ในการทำบุญวันเกิดกันนะครับ
วันนี้มานำเสนอนอกเรื่องทำบุญวันเกิด กันนิด เกี่ยวกับเทศกาลตรุษจีนที่เพิ่งผ่านมาไม่กี่วันนี้ครับ
ตรุษจีน เป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของจีน เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจีน เช่นเดียวกับสงกรานต์วันปีใหม่ไทย ทุกคนต่างให้ความสำคัญอย่างยิ่งมีการเฉลิมฉลองทั่วโลกโดยเฉพาะชุมชนขนาดใหญ่ของคนเชื้อสายจีน ตรุษจีนถือเป็นวันหยุดที่สำคัญมากช่วงหนึ่งของชาวจีน และยังแผ่อิทธิพลไปถึงการฉลองปีใหม่ของชนชาติที่อยู่รายรอบ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ม้ง มองโกเลีย เวียดนาม ทิเบต เนปาล และภูฐาน สำหรับชาวจีนที่อาศัยอยู่ต่างถิ่นกันก็จะมีประเพณีเฉลิมฉลองต่างกันไป
ประวัติของวันขึ้นปีใหม่ของจีนมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ในวัฒนธรรมอื่นๆ ความปรารถนาสิ่งที่เราหวังว่าจะได้ปรับปรุง หรือที่เราคิดทำเมื่อเริ่มต้นในปีใหม่ มาถึงตอนนี้ ถ้าไม่ถูกลืมก็ถูกยัดลงกล่องใส่ตู้ปิดตายและแปะหน้าตู้ว่าไม่แน่ เอาไว้ทำปีหน้าแล้วกันอย่างไรก็ดี ความหวังก็คงยังไม่สูญไปทั้งหมดเพราะโอกาสที่สองกำลังมาถึงแล้ว กับการฉลองวันปีใหม่จีนหรือที่เรารู้จักกันว่า ตรุษจีนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ นั้นเอง
ตรุษจีนนั้นคล้ายคลึงกับวันปีใหม่ในประเทศทางตะวันตก ร่องรอยของประเพณี และพิธีกรรมความเป็นมาของการฉลองตรุษจีน นั้นมีมานานกว่าศตวรรษ จริงๆแล้วนานมาก จนไม่สามารถย้อนกลับไปดูว่าเริ่มต้นฉลองมาตั้งแต่เมื่อไร เป็นที่รู้จักและจำได้ทั่วไปว่าเป็น การฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ และการฉลองเป็นเวลานานถึง 15 วัน
การเตรียมงานฉลองส่วนใหญ่จะเริ่มหนึ่งเดือนก่อนวันตรุษจีน (คล้ายกับวัน คริสต์มาสของประเทศตะวันตก) เมื่อผู้คนเริ่มซื้อของขวัญ, สิ่งต่างๆ เพื่อประดับบ้านเรือน, อาหารและเสื้อผ้า การทำความสะอาดครั้งใหญ่ก็เริ่มขึ้นในวันก่อนตรุษจีน บ้านเรือนจะถูก ทำความสะอาดตั้งแต่บนลงล่างหน้าบ้านยันท้ายบ้าน ซึ่งหมายถึงการกวาดเอาโชคร้าย ออกไป ประตูหน้าต่างมีการขัดสีฉวีวรรณทาสีใหม่ซึ่งสีแดงเป็นสีนิยม ประตูหน้าต่างจะถูก ประดับประดาด้วยกระดาษที่มีคำอวยพรอย่างเช่น อยู่ดีมีสุข ร่ำรวย และอายุยืนเป็นต้น
ทั้งหมดเห็นจะได้ ประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ นั้นผูกไว้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ อาหาร ไปจนถึงเสื้อผ้า อาหารค่ำนั้นประกอบด้วยอาหารทะเล และอาหารนึ่งเช่นขนมจีบ ซึ่งแต่ละอย่างจะมีความหมายต่างๆกัน อาหารอันโอชะอย่างเช่นกุ้งจะหมายถึงชีวิตที่รุ่งเรือง และความสุข เป๋าฮื้อแห้งหมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ดี สลัดปลาสดจะนำมาซึ่งโชคดี จี้ไช่ (ผมเทวดา) สาร่ายดูคล้ายผมแต่กินได้จะนำความความร่ำรวยมาให้
และขนมต้ม (Jiaozi) หมายถึงบรรพชนอวยพร และเป็นธรรมดาเสื้อผ้าที่ใส่สีแดงถือเป็นสีที่เป็นมงคลเป็นการไล่ปีศาจร้ายให้ออกไป และการใส่สีดำหรือขาวเป็นสิ่งต้องห้าม ซึ่งสีเหล่านี้ถือว่าเป็นสีแห่งการไว้ทุกข์ หลังจากอาหารค่ำทุกคนในครอบครัวนั่งกันจนเช้าเพื่อรอวันใหม่โดยการเล่นเกม เล่นไพ่ หรือดูรายการทีวีที่เกี่ยวกับวันตรุษจีน และในวันนี้จะต้องไม่โกรธ ริษยา หรือ ไม่พอใจ เพื่อเป็นสิริมงคลที่ดีสำหรับปีที่กำลังจะมาถึง
เมื่อถึงวันตรุษจีน ประเพณีตั้งแต่โบราณมาเรียกว่า อังเปา ซึ่งหมายถึง กระเป๋าแดง เป็นการที่คู่แต่งงานให้เงินเด็กๆ และผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้แต่งงานในซองสีแดง หลังจากนั้นทุกคน ในครอบครัว ต่าง ออกมาเพื่อกล่าวสวัสดีปีใหม่ เริ่มจากญาติๆ แล้วต่อด้วยเพื่อนบ้าน ซึ่งคงคล้ายกับการที่ชาวตะวันตกพูดว่า "Let bygones be bygones" (อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป)
บล๊อคทำบุญวันเกิด ก็ขออับเดตเล็กๆ น้อยๆ ครับ ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.tlcthai.com/webboard/view_topic.php?table_id=1&cate_id=35&post_id=19717วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2552
Happy Birthday ครบรอบ 30 วันบล๊อคทำบุญวันเกิด
เขียนโดย
Jittree
ที่
21:33
คงต้องบอกว่า สุขสันต์วันครบรอบ 30 วันนะจ๊ะ Happy Happy Birthday ของการกำเนิดบล๊อคเล็กๆ ในการนำเสนอเรื่องราวของการทำบุญวันเกิด มีสาระบ้าง ... ไร้สาระบ้าง แต่ก็สุขใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกอินเตอเน็ตแห่งนี้
จากตอนเย็นๆ ของวันที่ 13 กันยายน จนถึงวันนี้ 13 ตุลาคม สามสิบวันพอดี นี่ถ้าเป็นฝรั่งคงต้องบอกเลขไม่ดีเลย 55 แต่บล๊อคทำบุญวันเกิดเป็นไทยผสมเชื้อลาวยวนจากบรรพบุรุษ เลยไม่สนใจในตัวเลข หวยออกบ่อบไป (ฮา)
จากไม่เคยรู้เรื่องการทำบุญ หรือแม้แต่การทำบุญวันเกิดเลย ทำให้ต้องหาข้อมูลเพื่อมานำเสนอ ทำให้รู้ว่า อ่อ การทำบุญมันมีตั้งหลายแบบ มันมีสิ่งดีๆ อะไรอีกตั้งมากมาย เรื่องการทำสังฆทาน ทำความดี การใส่บาตร สะเดาะเคราะห์ การสวดมนต์ รวมถึงช่วยเหลือ ผู้ด้อยโอกาส ยังนำเสนอได้ไม่หมด ซึ่งจะค่อยๆ ทยอยนำเสนอรับใช้ท่านผู้อ่านที่ติดตามมาโดยตลอด
โดยเฉพาะผู้ติดตาม รวมถึงผู้ที่สะกดรอยตาม ไม่ว่าบล๊อคทำบุญวันเกิดไปโผล่ที่ไหน ก็ตามไปให้กำลังใจเสมอ รู้สึกอบอุ่นมากครับ ได้เจอผู้ที่สนใจในการทำบุญวันเกิดเหมือนกัน อิ่มบุญอิ่มใจกัน มีความสุข (ฮา)
วันนี้คงบ่นความเพียงเท่านี้
อ่อ อย่าลืมไปเล่นเกมแต่งตัว พาสาวน้อยไปทำบุญวันเกิดกันด้วยนะ
อ่อ อย่าลืมไปเล่นเกมแต่งตัว พาสาวน้อยไปทำบุญวันเกิดกันด้วยนะ
Happy Birthday Happy Birthday Happy Birthday to "Merits Birthday Wishes"
วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2552
เกมส์แต่งตัว เกมแต่งตัว พาสาวน้อยไป ทำบุญวันเกิด
เขียนโดย
Jittree
ที่
20:04
วันนี้บล๊อคทำบุญวันเกิด มีอะไรสนุกๆ มาฝากเพื่อนๆ หลังจากที่นำเสนอเรื่องของการทำบุญ ทำทาน ไปหลายบทความ แหมดูออกจะใกล้ๆ ไปทางธรรมะไปสักหน่อย บล๊อคทำบุญวันเกิด ก็กลัวเพื่อนๆ จะเบื่อกันวันนี้เลยขอนำเสนอ เกมผ่อนคลาย เบาๆ สนุกๆๆ นั่นคือ เกมแต่งตัว (เกมส์แต่งตัว) แต่ให้เข้าบรรยากาศของบล๊อคทำบุญวันเกิดเราซะหน่อย เลยขอเปลี่ยนชื่อเกมเป็น "เกมแต่งตัว พาสาวน้อยไป ทำบุญวันเกิด"
เพราะว่าวันนี้แฟนหนุ่มของเธอจะพาเธอไปทำบุญวันเกิด ด้วยการไปนมัสการพระ 9 วัดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามที่ได้เคยเสนอบทความไปแล้ว อยากรู้ว่ามีที่ไหนบ้างต้องกลับไปอ่านครับ
เอาหล่ะ อย่าเสียเวลา แต่งหน้า ทาปาก เลือกชุดสวยๆ ให้เธอหน่อยครับ :)
ผ่อนคลายกันเล็กๆ ขอให้มีความสุขกันถ้วนหน้า ด้วยความปรารถนาดีจาก "บล๊อคทำบุญวันเกิด" :)
เมื่อช่วยสาวน้อยแต่งตัวเสร็จ กดรูปโถสีเหลืองซ้ายมือล่างเพื่อดูว่าได้คะแนนเท่าไหร่
ขอให้สนุกกับเกมส์แต่งตัวนะค่ะ
วันอังคารที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552
ทำบุญวันเกิด ช่วยน้องหมา - น้องแมว ณ มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ
เขียนโดย
Jittree
ที่
12:31
บล๊อคทำบุญวันเกิด วันนี้นำเสนอการทำบุญอีกรูปแบบ คือการสงเคราะห์ ช่วยเหลือ น้องหมา น้องแมว ณ มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) ตั้งอยู่ใกล้ๆ นี่เองครับ คือที่ ซอยพระมหาการุณย์ ถนนติวานนท์ ปากเกร็ด นนทบุรี
ก่อนอื่นบล๊อคทำบุญวันเกิด ขอเล่าประวัติของบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ คร่าวๆ มีดังนี้ มูลนิธิก่อตั้งโดยคุณพิมพ์กุล โอฬารศิรโรจน์ (ประธานมูลนิธิ) หรือชื่อเดิมคือ "เรณู" ที่มีความรักต่อเจ้าตาแบ๊วสี่ขาล้วนๆ แบ่งข้าวแบ่งอาหาร ให้กินรายทาง จนกลายเป็นขาประจำ จนน้องๆ สี่ขาติดใจ มารอคอยทุกวัน บางครั้งเจอน้องๆ หมาที่พิการ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ก็นำมาเลี้ยงไว้ นั่นคือจุดเริ่มต้นในปี 2524 และต่อมาในปี 2532
ได้รับบริจาคที่ดิน 200 ตารางวา ที่อำเภอปากเก็ด จากคุณชวนชื่น โกมารกุล ณ นคร และตั้งเป็น "บ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ" ต่อมาปี 2533 สร้างโรงเรียนถาวรให้สัตว์พิการ ปี 2536 ได้รับความเมตตาอนุเคราะห์จากหลวงตามหาบัว แห่งวัดบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี สร้างอาคารถาวรสามชั้นให้ บริจาคที่ดินเพิ่มอีก 1 ไร่ และสงเคราะห์ค่าอาหารและค่ายาด้วย จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็น "บ้านสงเคราะห์สัตว์พิกาในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน" และปี 2549 เริ่มโครงการบ้านหลังใหม่ที่อำเภอบางเลน
ซึ่งตอนนี้มีน้องหมา น้องแมว เป็นจำนวนมากที่มาอาศัยอยู่ในบ้าน ทำให้ค่ายา ค่าอาหาร เป็นภาระหนักมาก บล๊อคทำบุญวันเกิด เลยอยากเชิญชวน เพื่อนๆ น้องๆ พี่ๆ หากกำลังมองหาการทำบุญ ในวันคล้ายวันเกิด ปีนี้ บล๊อคทำบุญวันเกิด ขอแนะนำที่นี่ครับ ซึ่งกิจกรรมที่เราสามารถช่วยเหลือได้ ก็มีกิจกรรม หนูอยากมีพ่อแม่ บ้านใหม่เพื่อสัตว์พิการ วันละบาทต่อชีวิตหมาแมว โครงการกระป๋องผ้าป่าสตางค์เศษ และอื่นๆ อ่านเพิ่มเติมได้ที่เวบ http://www.home4animals.org
ร่วมด้วยช่วยกันครับ ดีกว่าวันเกิดไปเลี้ยงสังสรรค์กินเหล้าเมายา ทำบุญ ทำทาน ดีกว่าครับ ชีวิตจะได้มีศิริมงคล มีพลังเสริมให้เจริญก้าวหน้า บล๊อคทำบุญวันเกิด ขอฝากเชิญชวนครับ บุญจงอยู่แต่ทุกท่าน มีความสุขมากๆ ในวันเกิดทุกคน ครับ :)
วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2552
ทำบุญวันเกิด เรื่องของการทำบุญสิบวิธี
เขียนโดย
Jittree
ที่
11:48
ขณะที่เขียนเรื่องราวที่บล๊อคทำบุญวันเกิดจะนำเสนอเพื่อนๆ วันนี้ บล๊อคทำบุญวันเกิดออนทัวร์เดินสายอยู่ต่างจังหวัด ครับ พาน้องๆ เยาวชนมาเข้าค่าย ณ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวานก็ได้ผ่านไปที่โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก ที่บล๊อคทำบุญวันเกิดได้นำเสนอไปเมื่อครั้งก่อน หากใครยังไม่ได้อ่าน อ่านได้ที่นี่ "ทำบุญวันเกิด เลี้ยงอาหารกลางวันน้องๆ โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก"
ได้บุญเย็นๆ อีกครั้งกลับน้องๆ น่ารักมากๆ เอาหล่ะครับมาเข้าเรื่องของการทำบุญ ของเราวันนี้บล๊อคทำบุญวันเกิดขอนำเสนอเรื่องราว การทำบุญ 10 วิธี ผมเชื่อว่าหลายๆ คนคงเข้าใจว่าการทำบุญ มีเพียงการตักบาตร ถวายสังฆทาน ทำทาน แต่จริงๆ มีอีกหลายวิธีดังนี้ครับ
ตามหลักพุทธศาสนา มีการทำบุญด้วยกัน ๑๐ วิธี เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ (สิ่งที่เป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ ๑๐ ประการ) คือ
๑. ให้ทาน แบ่งปันผู้อื่นด้วยสิ่งของ ไม่ว่าจะให้ใครก็เป็นบุญ (ทานมัย) การให้ทาน เป็นการช่วยขัดเกลา ความเห็นแก่ตัว ความคับแคบ ความตระหนี่ถี่เหนียว และความติดยึดในวัตถุ นอกจากนี้สิ่งของที่เราแบ่งปันออกไป ก็จะเป็นประโยชน์กับบุคคล หรือชุมชนโดยส่วนรวม
๒. รักษาศีล ก็เป็นบุญ (ศีลมัย) เป็นการฝึกฝนที่จะ ลด ละ เลิก ความชั่ว ไม่ไปเบียดเบียนใคร มุ่งที่จะทำความดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่น เป็นการหล่อเลี้ยงบ่มเพาะให้เกิดความดีงาม และพัฒนาคุณภาพชีวิตไม่ให้ตกต่ำ
๓. เจริญภาวนา ก็เป็นบุญ (ภาวนามัย) การภาวนา เป็นการพัฒนาจิตใจ และปัญญา ทำให้จิตสงบ ไม่มีกิเลส ไม่มีเรื่องเศร้าหมอง เห็นคุณค่าสิ่งต่าง ๆ ตามความเป็นจริง ผู้ที่ภาวนาอยู่เสมอย่อมเป็นหลักประกันว่า จิตจะมีความสงบ ชีวิตมีความสุข คุณภาพชีวิตดีขึ้น สูงขึ้น
๔. อ่อนน้อมถ่อมตน ผู้น้อยอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็แสดงออกในความมีเมตตาต่อผู้น้อย และต่างก็อ่อนน้อมต่อผู้มีคุณธรรม รวมถึงการให้เกียรติ ให้ความเคารพในความแตกต่างซึ่งกันและกัน ทั้งในความคิดความเชื่อ และวิถีปฏิบัติ ของบุคคลและสังคมอื่น
เป็นการลดความยึดมั่นถือมั่น ในความเป็นตัวตน ก็เป็นบุญ (อปจายนมัย)
๕. ช่วยเหลือสังคมรอบข้าง ช่วยเหลือสละแรงกายเพื่องานส่วนรวม หรือช่วยงานเพื่อนบ้าน
ที่ต้องการความช่วยเหลือ ก็เป็นบุญ (ไวยาวัจจมัย)
๖. เปิดโอกาสให้คนอื่น มาร่วมทำบุญกับเรา หรือในการทำงาน ก็เปิดโอกาสให้คนอื่น มีส่วนร่วมทำ - ร่วมแสดงความคิดเห็น รวมไปถึงการอุทิศส่วนบุญ ให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย ก็เป็นบุญ (ปัตติทานมัย)
๗. ยอมรับและยินดีในการทำความดี (หรือทำบุญ) ของผู้อื่น เป็นการเปิดโอกาสร่วมใจอนุโมทนา ในการกระทำความดีของผู้อื่น ก็เป็นบุญ (ปัตตานุโมทนามัย)
๘. ฟังธรรม บ่มเพาะสติปัญญาให้สว่างไสว ฟังธรรมะ ฟังเรื่องที่ดี มีประโยชน์ต่อสติปัญญา หรือมีประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตที่ดี เป็นความจริง ความดี ความงาม ก็เป็นบุญ (ธรรมสวนมัย)
๙. แสดงธรรม ให้ธรรมะ และข้อคิดที่ดี กับผู้อื่น แสดงธรรม นำธรรมะไปบอกกล่าว เผื่อแผ่ให้คนอื่นได้รับฟัง ให้เขาได้รู้จักวิธีการดำเนินชีวิตที่ดี เป็นเรื่องของความจริง ความดี ความงาม ก็เป็นบุญ (ธรรมเทศนามัย)
๑๐. ทำความเห็นให้ถูกต้อง และเหมาะสม มีการปรับทิฏฐิ แก้ไขปรับปรุงพัฒนาความคิดเห็น - ความเข้าใจให้ถูกต้องตามธรรม ให้เป็นสัมมาทัศนะอยู่เสมอ เป็นการพัฒนาปัญญาอย่างสำคัญก็เป็นบุญ (ทิฏฐุชุกรรม)
ทิฏฐุชุกรรม หรือ สัมมาทัศนะ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำบุญทุกชนิดและทุกโอกาส จะต้องประกบและประกอบเข้ากับบุญกิริยาวัตถุข้ออื่นทุกข้อ เพื่อให้งานบุญข้อนั้น ๆ เป็นไปอย่างถูกต้องตามความหมายและความมุ่งหมาย พร้อมทั้งได้ผลถูกทาง
เป็นอย่างๆ ไร ครับ! บล๊อคทำบุญวันเกิดก็ขอนำเสนอเรื่องราวสำหรับวันนี้แต่เพียงเท่านี้ครับ เวลามีน้อยแอบหนีงานมาอับเดตข้อมูล แล้วกลับไปประจำการจะนำเรื่องราวการทำบุญวันเกิด ซึ่งมีอีกมากมาย มานำเสนอทุกท่าน ครับ ...
วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552
MISTINE Beauty Mind : เพชรา เชาวราษฎร์
เขียนโดย
Jittree
ที่
10:59
อรุณสวัสดิ์ในวันอากาศสดใส วันนี้บล๊อคทำบุญวันเกิด ขอนำเสนอกระแสฮอตฮิตในช่วงเวลานี้ หลังจากบล๊อคทำบุญวันเกิดได้รับเมล์จากเพื่อนสนิทท่านหนึ่งส่งมาให้ ต้องบอกว่าวันนี้กระแสการกลับมาของ คุณเพชรา เชาวราษฎร์ อดีตนางเอกตลอดกาล ใน MISTINE Beauty Mind : เพชรา เชาวราษฎร์ มาให้ชมกัน
เธอหายไป 30 ปี นี่คือ ครั้งแรกกับการเปิดตัว ของอดีตนางเอกตลอดกาล เพชรา เชาวราษฎร์ บล๊อคทำบุญวันเกิด ขอร่วมให้กำลังใจเธอครับ
เธอหายไป 30 ปี นี่คือ ครั้งแรกกับการเปิดตัว ของอดีตนางเอกตลอดกาล เพชรา เชาวราษฎร์ บล๊อคทำบุญวันเกิด ขอร่วมให้กำลังใจเธอครับ
ประวัติ เพชรา เชาวราษฎร์
เพชรา เชาวราษฎร์ (เกิด 19 มกราคม พ.ศ. 2486) อายุ 66 ปี (ปัจจุบันปี 2552) ชื่อเล่น อี๊ด ชื่อจริงว่า เอก เชาวราษฎร์ นักแสดงภาพยนตร์เจ้าของฉายา นางเอกนัยน์ตาหยาดน้ำผึ้ง มีผลงานแสดงประมาณ 300 เรื่อง ระหว่าง พ.ศ. 2505 ถึง 2521
วัยเด็ก
เพชราเกิดที่จังหวัดระยอง เป็นบุตรคนที่ 4 จากพี่น้องทั้งหมด 7 คน เมื่ออายุ 15 ปี ได้เข้ามาเรียนหนังสือที่กรุงเทพ พักอาศัยอยู่กับพี่สาวและพี่เขย และช่วยงานที่ร้านเสริมสวยของน้องสาวพี่เขย เธอได้รับการชักชวนให้เข้าประกวดธิดาเมษาฮาวายประจำปีพ.ศ. 2504 จัดโดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ใช้ชื่อในการประกวดว่า ปัทมา เชาวราษฎร์ ได้ตำแหน่งชนะเลิศ
เธอได้รับการชักชวนจากศิริ ศิริจินดา และดอกดิน กัญญามาลย์ ให้แสดงภาพยนตร์เรื่อง บันทึกรักพิมพ์ฉวี เมื่อ พ.ศ. 2505 เป็นเรื่องแรก ขณะอายุ 19 ปี แสดงคู่กับ มิตร ชัยบัญชา โดยดอกดิน กัญญามาลย์ เป็นผู้ตั้งชื่อว่า เพชรา ให้
เพชรา เชาวราษฎร์ แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจากภาพยนตร์เรื่องที่สอง เรื่อง ดอกแก้ว ตามด้วย หนึ่งในทรวง อ้อมอกสวรรค์ และได้แสดงคู่กับมิตร ชัยบัญชา รับบทคู่รักในภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เป็นที่ชื่นชอบของแฟนภาพยนตร์ เรียกว่า คู่ขวัญ มิตร-เพชรา
หลังจากมิตร ชัยบัญชาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในการถ่ายภาพยนตร์เรื่อง อินทรีทอง เพชราก็ยังรับบทนางเอกภาพยนตร์ต่อเนื่องมาอีกหลายปี คู่กับ สมบัติ เมทะนี ไชยา สุริยัน ลือชัย นฤนาท และพระเอกใหม่ ครรชิต ขวัญประชา นาท ภูวนัย ยอดชาย เมฆสุวรรณ กรุง ศรีวิไล
*** บล๊อคทำบุญวันเกิด เกิดไม่ทันเหมือนกัน :)***
โลกแห่งความมืด
ประมาณ พ.ศ. 2515 เธอเริ่มมีปัญหาเรื่องสายตา เนื่องจากในการถ่ายภาพยนตร์ต้องใช้แสงไฟสว่างจ้า ใช้เวลารักษาอยู่หลายปี จนกระทั่งตาบอดสนิททั้งสองข้าง เมื่อ พ.ศ. 2521 ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่เธอแสดง คือเรื่อง ไอ้ขุนทอง ซึ่งเธออำนวยการสร้าง และแสดงเป็นแม่ของพระเอก รับบทโดยสรพงศ์ ชาตรี สาเหตุของการตาบอดของเพชรา มาจากการไม่ได้พักสายตา ไม่ว่าจะเป็นบทบาทที่ต้องร้องไห้บ่อย การขับรถไปทำงานเอง ประกอบกับสมัยนั้น ถ่ายหนังต้องใช้ไฟแรง หรือใช้รีเฟล็กซ์เยอะ ช่วงหลังๆที่ถ่ายหนังเรื่อง “ไทยใหญ่” เมื่อปี 2513 เริ่มแสบตา แต่เธอก็ยังขับรถไปถ่ายหนังต่างจังหวัดเอง และอดทนแสดงภาพยนตร์จนถึงเรื่องสุดท้ายคือ “ไอ้ขุนทอง” เข้าฉายในปี 2520
เมื่อดวงตาเริ่มมีปัญหา จึงไปหาหมอ แต่ว่าไม่ได้ไปตามนัดโดยสม่ำเสมอ เพราะต้องไปถ่ายหนัง บางวันก็อยู่ต่างจังหวัด พออาการเริ่มหนักขึ้น ถึงขั้นขับรถปีนเกาะกลางถนนหลายครั้ง ช่วงที่อาการหนักมากๆ ก็พยายามรักษาทุกวิถีทาง แพ้ยาจนตัวบวม จากน้ำหนัก 47-48 กิโลกรัม จนมาหนัก 60 กว่ากิโลกรัม ต้องซื้อเสื้อผ้าคนท้องมาใส่ ผมร่วงหมดศีรษะ ฝ้าขึ้นดำไปทั้งหน้าทั้งตัว เมื่อตัวบวมมากๆ ก็หายใจไม่ออก กลืนน้ำก็ไม่ได้ ต้องเข้าไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล การทำงานของไตหยุด พิษยาจึงคั่งค้างทำให้ตัวบวม ต้องรอให้พิษยาลดลง จากที่เคยสวมแว่นดำและนั่งแท็กซี่ไปไหนมาไหนได้เอง ตอนหลังก็มองไม่เห็น ออกไปไหนคนเดียวไม่ได้[1]
คืนวงการ
หลังจากหยุดงานแสดงเพื่อรักษาสุขภาพมาหลายปี เธอทำงานเป็นนักจัดรายการวิทยุคลื่นลูกทุ่ง เอฟเอ็ม ตั้งแต่ พ.ศ. 2544-2548
ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2552 เธอให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ครั้งแรกในรอบ 30 ปี ในรายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย โดยเข้าไปคุยในบ้านของเธอเอง พร้อมพูดเปิดใจและบอกสาเหตุที่เก็บตัวเงียบ ไม่ยอมออกรายการโทรทัศน์ แต่ยังคงไม่เปิดเผยหน้าตา[2] และเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2552 เพชราได้รับงานโฆษณามิสทีน โดยรายได้จากงานครั้งนี้เพชราจะบริจาคให้องค์กรการกุศลทั้งหมด ส่วนหนึ่งจะมอบให้กับมูลนิธิคนตาบอดแห่งประเทศไทย โฆษณาประชาสัมพันธ์ตัวแรกที่นำเสนอภาพของเพชราในอดีตได้แพร่ภาพเมื่อประมาณกลางเดือนกันยายน และตัวที่สองที่มีพรีเซนเตอร์ของมิสทีนคนก่อน ๆ มาพูดถึงจุดเด่นของโฆษณาตัวนี้ ได้ประกาศว่าโฆษณาตัวเต็มจะเผยแพร่ในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552 โดยผู้บรรยายโฆษณาทั้งสองตัวคือ นิรุตต์ ศิริจรรยา ถ่ายทำเมื่อวันที่ 16-17 กันยายน พ.ศ. 2552
*** ผมเชื่อว่าหลายๆ คนที่อายุต่ำกว่าเลข 40 คงอาจจะยังไม่เคยทราบถึงเรื่องราวของนางเอกตลอดกาล ที่ได้ฝากผลงานไว้มากมาย แม้วันนี้เธอจะอยู่ในโลกแห่งความมืด แต่เธอมีกำลังใจที่เข้มแข็ง มีความสว่างในใจ บล๊อคทำบุญวันเกิด อยากให้ผู้อ่านทุกท่านได้ เรียนรู้ เพราะว่าแม้เราจะเป็นอย่างไร หากมีกำลังใจที่เข้มแข็ง อุปสรรคใดๆ ก็ไม่สามารถขวางกั้นเราได้ครับ
*** อย่าลืมไปทำบุญวันเกิดกันนะครับ ............... :)
วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2552
การถวายสังฆทาน การทำบุญที่ได้บุญมาก
เขียนโดย
Jittree
ที่
14:32
สวัสดีครับ สำหรับแฟนๆ ที่ติดตามบล๊อคทำบุญวันเกิด วันนี้มาอับเดตเกร็ดความรู้เพิ่มเติมกันดีกว่า เกร็ดที่ว่านี้ก็คือการถวายสังฆทาน เพื่อนๆ ที่ชอบไปทำบุญวันเกิดด้วยการไปวัดถวายสังฆทานที่วัด เพื่อนๆ ทราบเรื่องการถวายสังฆทานหรือไม่ว่ามีเกร็ดที่ควรรู้อะไรบ้าง
การถวายสังฆทาน เป็นการทำบุญที่คนไทยเชื่อกันว่า เป็นการทำทานที่ได้บุญมาก เพราะ สังฆทาน เป็นการถวายทานที่ไม่ระบุเฉพาะว่าเป็นพระสงฆ์รูปใด ผู้ที่ประสงค์จะทำทานจะเตรียมสิ่งของที่จะถวายทาน เมื่อพร้อมแล้วนำไปยังวัด บอกท่านเจ้าอาวาสว่า ต้องการถวายสังฆทาน ท่านจะนิมนต์พระสงฆ์รูปใดมารับสังฆทานก็ได้ หรือจะเตรียมของแล้วนำของไปยังวัด ไปพบพระสงฆ์รูปใดก็แจ้งความจำนงขอถวายสังฆทาน ท่านก็จะทำพิธีรับสังฆทาน หากกำหนดว่าจะถวายแก่พระรูปใดรูปหนึ่ง การทานนั้นก็ไม่เป็น สังฆทาน
ของที่จะถวายสังฆทาน มักเป็นอาหาร และสิ่งของที่จำเป็นสำหรับภิกษุสามเณร เช่น สบง จีวร ผ้าเช็ดตัว แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ เครื่องกระป๋อง นม อาหารแห้ง เป็นต้น รวมถึง ชา กาแฟ โอวัลติน และเงิน ตามความจำเป็น ตามความพอใจของผู้ที่จะทำสังฆทาน
ผมแนะนำว่าควรซื้อของมาจัดเอง ดีกว่าซื้อของสำเร็จตามร้าน หรือว่าห้าง เพราะเคยซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้ คือเมื่อหลายปีก่อนไปทำบุญวันเกิด ที่วัดใกล้บ้าน กอปรกับไม่มีเวลาเลยไปซื้อของที่เค้าจัดไว้แล้ว ปรากฎว่าเป็นของหมดอายุ ผมเลยไม่รู้ว่าวันนั้นได้บุญหรือบาป มารู้ตอนหลังเพราะว่าพระท่านบอก ... ต่อครับ
ถ้าต้องการอุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลให้แก่ผู้ใด ผู้ถวายทานก็มักจะบอก หรือเขียนชื่อ นามสกุล ให้แก่พระภิกษุ เพื่อท่านจะได้ทำพิธีอุทิศส่วนกุศลไปยังผู้ที่บอกชื่อนั้น ๆ
การทำพิธีถวายสังฆทาน ไม่มีอะไรยุ่งยาก เมื่อนำสิ่งของไปและพระสงฆ์รู้ความประสงค์ ท่านก็จะให้จุด ธูป เทียน แล้วก็ว่า นโม 3 จบ แล้วกล่าวถวาย สังฆทาน ดังนี้
อิมานิ มยงภันเต ภตตานิ สปริวารานิ ภิกขุสงคสส โอโณชยาม โร ภนเต ภิกขุ สงโฆ อิมานิ ภตตานิ สปริวารานิ ปฏิคคณหาตุ อมหากํ ฑีฆรตตํ หิตาย สุขาย
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลาย ขอถวายภัตตาหาร กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้แด่พระภิกษุสงฆ์ ขอพระภิกษุสงฆ์จงรับ ซึ่งภัตตาหาร กับทั้งบริวารทั้งหลายเหล่านี้ของข้าพเจ้าทั้งหลาย เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขแก่ข้าเจ้าทั้งหลาย สิ้นกาลนานเทอญ
พระสงฆ์จบจะ “สาธุ” แล้วก็ถวายของที่เป็นสังฆทานทั้งหมดให้ท่าน แล้วท่านก็จะให้ศีล ให้พร ยถา สัพพี ผู้ถวายสังฆทานก็กรวดน้ำ แผ่ส่วนบุญกุศล เป็นอันเสร็จพิธีทำบุญถวาย
จบแล้วครับสำหรับข้อมูลการทำสังฆทาน นำเสนอเพื่อเป็นความรู้ให้เพื่อนๆ เวลาไปทำบุญวันเกิด จะได้ทราบถึงความหมาย วิธีการ ของการถวายสังฆทาน แล้วผมกับเรื่องราวดีๆ ที่บล๊อคทำบุญวันเกิดจะเสนอในเรื่องต่อไปครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.thaifolk.com/Doc/sangkathan.htm
วันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2552
ทำบุญวันเกิด วัดเก่าแก่ ยากจน น้ำท่วมวัด "วัดปากคลองพระอุดม" ปากเกร็ด
เขียนโดย
Jittree
ที่
12:02
ขอประชาสัมพันธ์สถานที่สำหรับท่านที่มองหาวัดที่จะไปทำบุญวันเกิด วันนี้ผมมีวัดแห่งหนึ่งมาแนะนำเพื่อนๆครับ วัดปากคลองพระอุดม ผมอ่านข้อมูลนี้จากเวบพันธ์ทิปดอทคอม เห็นว่าน่าสนใจมากทีเดียวบล๊อคทำบุญวันเกิด เลยขออนุญาตนำมาประชาสัมพันธ์เผยแพร่ต่อครับ จากที่อ่านกระทู้ที่ pantip วัดปากคลองพระอุดมแห่งนี้ต้องการการบูรณะซ่อมแซมเป็นการด่วน แถมน้ำท่วมทั้งวัด เพราะวัดติดริมน้ำ ไม่มีใครดูแล ทั้งวัดมีพระ 9 รูป
การที่วัดค่อนข้างยากจน คนก็ไม่นิยมมาบวชที่นี่ เพราะว่าไม่มีคนมาใส่บาตร ไม่มีคนมาทำบุญ วันเกิดก็ไม่มีใครมาทำบุญวันเกิด กันที่นี่เลย ทำให้พระต้องเรียกรถออกไปบิณฑบาตรเองที่ปากเกร็ด อ่อ วัดปากคลองพระอุดม ตั้งอยู่ที่ปากเกร็ด
ข้อมูลการเดินทางไปทำบุญวันเกิดที่วัดปากคลองพระอุดม วัดตั้งอยู่เลขที่ ๔๑ บ้านแหลม ถ.ราชพฤกษ์ ม.๕ ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด นนทบุรี ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ.๒๔๑๘ พระอุโบสถและพระประธานปางสมาธิ อายุกว่า ๑๐๐ ปี(๒๔๑๘) ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ ๒๑ ต.ค.๒๔๒๒ เจ้าอาวาส พระครูวินัยธรวิชัย อติภทฺโท(ชื่นแสงจันทร์) ถ้ามาจากถนนราชพฤกษ์ เลี้ยวออกขวา ที่จะไปแจ้งวัฒนะ พอเลี้ยวขวาออกไปแล้ว ขับชิดๆซ้าย เลยร้านโคขุนไป แล้วกลับรถใต้สะพาน ขับตรงๆไปอีกนิด ก็จะเจอวัดอยู่ทางซ้ายมือ (วัดจะอยู่ก่อนถึงร้านอิ่มปลาเผา)
สภาพของวัดตอนนี้ โบสถ์ทรุดโทรมมาก จึงต้องสร้างโบสถ์ใหม่ แต่เนื่องจากวัดไม่มีรายได้ใดๆเพราะมีพระเพียงแค่ 8 รูป จึงขอให้ร้านค้ามาช่วยก่อน จึงยกศาลาดีดขึ้นและถมที่แทนที่จะสร้างศาลาใหม่ เนื่องจากขาดแคลนทุนทรัพย์อย่างมาก ป้ายทางเข้าวัดทำใส่แผ่นไม้มาติดไว้ ก็โดนขโมยทุกครั้ง ปัจจุบันนี้แม้แต่ประตูเข้าวัดยังไม่มี
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่ไปทำบุญวันเกิด อย่าลังเลใจครับ ไปทำบุญวันเกิดกันที่นี่เลย วัดปากคลองพระอุดม ได้ทำบุญวันเกิดด้วย ได้ช่วยเหลือวัดด้วย
ใครอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม อ่านต่อได้ที่กระทู้ http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q8365953/Q8365953.html
วันเสาร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2552
นอกเรื่องทำบุญวันเกิด ตำนานเค้กวันเกิด
เขียนโดย
Jittree
ที่
14:01
หลังจากบล๊อคทำบุญวันเกิด ได้นำเสนอเรื่องราว ไอเดียการทำบุญวันเกิด ไปได้หลายเรื่อง หลายตอน บังเอิญวันนี้ได้อ่านอีกเรื่องราว ที่อาจจะมองว่าสัมพันธ์ หรือไม่สัมพันธ์กับการทำบุญวันเกิด แต่ผมเชื่อว่าก็เป็นเกร็ดที่น่ารู้มากๆ ที่เดียว เราเคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมในวันคล้ายวันเกิด ถึงต้องมีฉากเป่าเทียนที่ตั้งอยู่บนเค้ก...
วันนี้เลยขอเสนอเรื่องราวของที่มาของเค้กวันเกิด (ทดแทนเรื่องการทำบุญวันเกิด) จากการสำรวจข้อมูลพบว่าทฤษฎีเกี่ยวกับตำนานกำเนิดของธรรมเนียมการใช้เค้กเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการฉลองวันเกิดนั้นมีด้วยกันหลากหลายทฤษฎี บางคนเชื่อว่ามีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ในขณะที่บางคนเชื่อว่าเริ่มขึ้นในยุคกลาง ซึ่งยังไม่มีหลักฐานระบุแน่ชัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์อาหารเชื่อว่า เค้กวันเกิดมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลแล้ว เนื่องจากคนสมัยก่อนชอบทำขนมอบจำพวกขนมเค้กและขนมปัง เพื่อใช้บูชาในงาน พิธีกรรมทางศาสนา งานแต่งงาน งานศพ รวมถึงงานวันเกิดด้วย
ในสมัยกรีกมีร่องรอยทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับตำนานเค้กวันเกิดระบุเอาไว้ว่า เป็นขนมหวานสำหรับบูชาเทพีจันทรา โดยชาวเมืองกรีกนิยมทำเค้กน้ำผึ้ง หรือขนมปังหวานรูปวงกลมเพื่อนำไปบูชาเทพีจันทราที่วิหารอาร์เทอมิส
แต่นักทฤษฎีบางสำนักเชื่อว่า จุดเริ่มต้นของเค้กวันเกิดมีขึ้นครั้งแรกในประเทศเยอรมนี ช่วงยุคกลาง ซึ่งเป็นยุคแห่งความรุ่งเรืองของศาสนาคริสต์ โดยชาวคริสต์จะทำขนมปังหวาน เป็นรูปพระเยซูทรงอยู่ในผ้าห่อตัวในประสูติ เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ที่ระลึก ในวันคล้ายวันประสูติของพระองค์
ในเวลาต่อมา ชาวเยอรมนี เลยได้ไอเดียใหม่ๆ ทำเค้กเพื่อฉลองวันเกิดให้แก่เด็กๆ และจากนั้นมา ธรรมเนียมเช่นนี้ก็ถูกปฏิบัติสืบทอดต่อๆ กันมา จวบจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
เป็นอย่างไรครับ ก็มีหลากหลายเรื่องราว หลากหลายทฤษฎี บล๊อคทำบุญวันเกิด ก็ขอเสนอเรื่องราวนี้แทนไอเดียการทำบุญวันเกิด สักหนึ่งตอน แล้วคราวหน้าจะนำเสนอเรื่องการทำบุญวันเกิดรูปแบบต่อไปครับ วันนี้คงมีเพียงเท่านี้ครับ ขอตัวไปทำบุญวันเกิดหลานๆ ก่อนนะจ๊ะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)